ช่วงนี้ได้ยินคำว่า AI strategy กันบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยขออนุญาตนำเอา AI strategy ที่คุณ Alexandr Wang ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Scale AI ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา ใช้ชื่อจดหมายว่า Winning the AI War เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการวาง AI strategy ให้กับองค์กร หรือ บริษัทครับ
Alexandr Wang คือใคร ทำไมเราต้องฟัง? ชื่อของคุณ Alexandr Wang กำลังถูกพูดถึงบ่อยมากๆในวงการ AI ตอนนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่า Meta ต้องการเข้าซื้อบริษัท Scale AI ที่เขาร่วมจัดตั้งขึ้นมาเมื่ออายุ 19 ปี (ปัจจุบันคุณ Alexander อายุ 28 ปี เป็น MIT dropout ออกมาร่วมตั้งบริษัท Scale Ai ก่อนเรียนจบ คล้าย Mark Zuckerberg ที่เป็น Harvard dropout) โดย Meta มีแผนที่จะเข้าซื้อหุ้น 49% ใน Scale AI ด้วยมูลค่า 14.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นไปที่การดึงตัว Alexandr Wang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอวัย 28 ปีของ Scale AI มาร่วมงานกับ Meta ในตำแหน่งสำคัญ โดยเขาจะเป็นหัวหน้าหน่วย "superintelligence" ที่จะรับผิดชอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ ๆ ของ Meta และจะมีผู้เชี่ยวชาญด้าน AI คนอื่น ๆ มาทำงานภายใต้การนำของเขาด้วย
Scale AI ทำอะไร?
Scale AI เป็นบริษัทชั้นนำที่ช่วยเร่งการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้าง ชุดข้อมูลคุณภาพสูง สำหรับการฝึกโมเดล AI โดยมีบริการหลักดังนี้ :
ยุทธศาสตร์ AI ในมุมมองคุณ Alexandr Wang โดยจดหมายเปิดผนึกให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา ใช้ชื่อจดหมายว่า Winning the AI War โดยระบุว่า สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำด้าน AI เนื่องจากจีนกำลังลงทุนอย่างมหาศาลและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สหรัฐอเมริกานำหน้า จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ AI ที่ครอบคลุมและรอบด้าน โดยเน้นการลงทุนอย่างชาญฉลาด การสร้างกำลังคนแห่งอนาคต และการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และการริเริ่มดังต่อไปนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ:
1. การจัดสรรงบประมาณการลงทุน AI ใหม่
ปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ ทุ่มเงินลงทุนไปที่ อัลกอริทึม เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับ การประมวลผล (Compute 60%) ข้อมูล (Data 30%) และ อัลกอริทึม (Algorithms 10%) หากต้องการชนะ รัฐบาลจะต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสูตรความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหมายถึงการเพิ่มงบประมาณสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผล และการจัดหาและจัดการข้อมูลคุณภาพสูงอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยอัลกอริทึม ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐฯ จะต้องไม่เพียงแต่ทัดเทียม แต่ต้อง เกินกว่า การลงทุนเชิงรุกของจีนในการนำ AI ไปใช้จริง เพื่อให้มั่นใจว่าโซลูชัน AI ของอเมริกาจะถูกนำไปใช้งานในวงกว้าง
2. การสร้างบุคลากร AI แห่งอนาคต
AI คาดว่าจะสร้างงานใหม่ได้มากถึง 50 ล้านตำแหน่ง และสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้ถึง 15.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 เพื่อดึงดูดศักยภาพทางเศรษฐกิจนี้และสร้างงานภายในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลควรจัดตั้ง คณะทำงานระหว่างหน่วยงาน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการทบทวนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยทันที เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากร AI แห่งอนาคตสามารถเติบโตได้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมความรู้ด้าน AI การพัฒนาโครงการฝึกอบรมที่ครอบคลุม และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา อุตสาหกรรม และรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้ชาวอเมริกันมีทักษะที่จำเป็น
3. ทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางพร้อมใช้งาน AI
แม้ว่า AI จะมีศักยภาพมหาศาลในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล การตัดสินใจ และการส่งมอบบริการ แต่ข้อจำกัดสำคัญประการหนึ่งคือการขาดข้อมูลของรัฐบาลที่เหมาะสมกับการสนับสนุน AI รัฐบาลสหรัฐฯ แม้จะเป็นผู้ผลิตข้อมูลรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงประโยชน์อย่างเต็มที่ การดำเนินการของฝ่ายบริหารเกี่ยวกับ AI ควรบังคับให้ หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมดต้องพร้อมใช้งาน AI ภายในปี 2027 ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัย การปรับปรุงคุณภาพข้อมูลและการกำกับดูแล และการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่แข็งแกร่งภายในหน่วยงาน
4. ปลดปล่อยพลังงานของอเมริกาเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
ความต้องการพลังงานเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของภาค AI นั้นมีจำนวนมหาศาล เพื่อปลดล็อกศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มความมั่นคงของชาติ และเพิ่มผลผลิตจากระบบ AI รัฐบาลของเราจะต้องมีนโยบายด้านพลังงานที่เพียงพอ ภายใน 100 วันแรก สภาพลังงานแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ควรเปิดตัว แผนพลังงานเชิงรุก โดยมีเป้าหมายในการผลิตพลังงานและไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำที่สุดทั่วโลก ซึ่งจะรองรับความต้องการด้านการประมวลผลจำนวนมากของการพัฒนาและการนำ AI ไปใช้งาน
5. สร้างความปลอดภัยโดยไม่ขัดขวางนวัตกรรม
การดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำให้เติบโตในอเมริกาต้องอาศัยกรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสม สำหรับ AI สิ่งนี้ทำได้โดยใช้ แนวทางเฉพาะภาคส่วนตามกรณีการใช้งาน ควบคู่ไปกับการทดสอบโมเดลและระบบ AI ล้ำสมัยเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด ทำเนียบขาวควรสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานดำเนินการ วิเคราะห์ช่องว่าง ของกฎระเบียบ AI ที่มีอยู่ โดยระบุว่ากฎระเบียบใดที่อาจต้องมีการออกใหม่ นอกจากนี้ สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) ควรได้รับมอบหมายให้พัฒนามาตรฐานและกรอบการทำงานสำหรับการทดสอบและประเมินระบบ AI การดำเนินการเหล่านี้จะร่วมกันสร้างกรอบการกำกับดูแลที่รักษาความปลอดภัยโดยไม่บ่อนทำลายการเติบโตในระยะยาวหรือความมั่นคงของชาติ
สรุปได้ว่า ยุทธศาสตร์ AI นั้น ต้องมีการลงทุนที่เหมาะสม โดยเน้นการประมวลผล ข้อมูล และอัลกอริทึมอย่างสมดุล การสร้างกำลังคนที่มีทักษะในอนาคต การเตรียมความพร้อมของภาครัฐในด้านข้อมูล และการมีนโยบายพลังงานที่รองรับความต้องการของ AI ควบคังกับการสร้างกรอบการกำกับดูแลที่เน้นความปลอดภัยโดยไม่บั่นทอนนวัตกรรม เรามาติดตามกันต่อครับว่าท้ายที่สุด ยุทธศาสตร์ AI ของแต่ประเทศรวมถึงของบ้านเราเองจะเป็นอย่างไร ถ้ามีอัพเดทยังไงเดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
